โก้ ธีรศักดิ์ น้ำตาท่วมจอ ต่อสู้ชีวิต LGBTQ+
ครอบครัวบูลลี่ เคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย
น้ำตาท่วมจอ! โก้ ธีรศักดิ์ ต่อสู้ชีวิตLGBTQ+ เคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย ครอบครัวบูลลี่ หนีออกจากบ้าน
กว่าจะเฉิดฉายเป็นตัวแม่ตัวมัม ใช้ชีวิตในสิ่งที่อยากเป็น อดีตพระเอกยุค 90 โก้ ธีรศักดิ์ ต้องต่อสู้ชีวิตมาอย่างโชกโชน เพื่อที่จะเป็น LGBTQ+ ได้อย่างภาคภูมิ
งานนี้ขอถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตหมดเปลือก เปิดใจกลางรายการดัง “โต๊ะหนูแหม่ม” ช่องเวิร์คพอยท์หมายเลข23 กับพิธีกรตัวแม่ “พี่หนูแหม่ม สุริวิภา” เล่าชีวิตสุดดรามาที่ต้องเผชิญเรื่องราวมาแบบสุขเศร้าเคล้าน้ำตา
เป็นอีกหนึ่งคนที่ต่อสู้มากับเสียงวิจารณ์เยอะมากในการเป็นเพศทางเลือก ?
“แต่ก่อนคนจะมองว่าเป็นไวรัสชนิดนึงค่ะ ซึ่งคนจะแอนตี้ กลัวว่าดูทางบ้านแล้วจะติด”
ย้อนถามถึงชีวิตในวัยเด็ก เรารู้ตัวแต่เด็กเลยมั้ย ?
“รู้ตัวตั้งแต่เด็กนะ รู้ว่าเรามาแนวนี้ อ้อนแอ้นๆ”
แล้วที่บ้านรู้มั้ยว่าเรามีพฤติกรรมแบบนี้ ?
“เขาก็พอรู้ พอสงสัย แต่ก็ฟาดซะยับเลยค่ะ รู้ตัวมาตลอด พอ ม.1 เป็นเพื่อนกับ นุ๊ก สุทธิดา ก็สวยคู่กันมาเลย (หัวเราะ)”
ด้วยความที่ครอบครัวเป็นคนจีน อาจจะต้องเจอดรามาหนักหน่อย ?
“มีพี่น้อง 5 คน โก้เป็นคนเล็ก มีพี่ผู้หญิง 3 คนโต ที่บ้านไม่มีใครอนุญาตเพราะสมัยก่อนค่อนข้างที่จะแอนตี้ และด้วยความที่เป็นครอบครัวคนจีนด้วย เราก็จะโดนฟาดโดนตีตลอด เพราะส่วนมากโรงเรียนจะชอบโทรมาฟ้อง เราเรียนอยู่ที่โรงเรียนคริสต์ โรงเรียนชายล้วน ที่นั้นจะเล่นงาน LGBTQ+ เหลือเกิน ถึงขั้นถูกเชิญออกด้วยเหตุผลเป็น LGBTQ+ ออกทั้งกลุ่มทั้งก๊วนเลยนะคะ เพราะเขาไม่ให้เรียนต่อ”
แล้วทางโรงเรียนจับโป๊ะเราได้ยังไง ?
“ก็แสดงออกเยอะนะคะ (หัวเราะ) ก็สมัยก่อนมันก็ต้องมีบ้างนะคะ หน้าขาวปากแดง แต่ที่จะโดนเลย สมัยก่อนเลยคือการค้นกระเป๋า ว่ามีอุปกรณ์อย่างอื่นที่เหนือชายหรือเปล่า อย่างเช่นถ้าเจอแป้ง มาสคาร่า เขาก็จะเชิญผู้ปกครอง ยึดของ มันก็เหมือนกับว่าเป็นความผิดอย่างนึง แล้วพออยู่ที่บ้าน ที่บ้านเองก็ไม่ยอมรับ เขาก็จะมาตรวจดูว่ามีอุปกรณ์แต่งหน้าหรือเปล่า” coinmasterx
ที่บ้านไม่ชอบ ไม่อยากให้เป็นเลยใช่มั้ย ?
“ที่บ้านคือไม่ได้เลย ไม่อยากให้เป็น ถือว่ามันผิดแล้วทำให้ตระกูลเสื่อมเสีย แทบจะโดนขับไล่ออกจากตระกูลเลยนะคะ เรียกได้ว่าบ้านโก้ดุมาก โดนตียิ่งกว่าอีเย็น นางทาส โดนเฆี่ยนแบบว่าโตมากับไม้เรียว”
จนย้ายมาเรียนโรงเรียนสหฯ จนได้มารู้จัก นุ๊ก สุทธิดา ?
“ใช่ค่ะ ย้ายมาเรียนบดินทร์เดชา ตอนแรกเพื่อนก็ไม่รู้ แอ๊บๆ ก่อน แอ๊บตอนเข้าใหม่ๆ แต่แอ๊บไปแอ๊บมามันก็หลุด (หัวเราะ)”
สมัยก่อนลำบากมากที่จะต้องใช้ชีวิตในวงการบันเทิง ?
“มันยากมากค่ะ เพราะเรามาใช้ชีวิตในบทบาทพระเอก อย่างผู้ลงทุน และผู้บริโภค เขาก็อยากให้เราเป็นในแบบที่เขาอยากจะให้เป็น เราก็ทำแบบนั้นมาเรื่อยๆ เราคิดว่ามันต้องปรับได้ เปลี่ยนได้ ที่สำคัญเป้าหมายตอนนั้น คือว่าเราอยากมีรายได้ เราอยากจะได้เงิน ต้องทำเพราะว่านายจ้างเขาชอบแบบนี้”
เคยเครียดกับสิ่งที่ต้องเผชิญในยุคนั้นบ้างมั้ย ?
“คือคนรอบข้างที่รู้จักเรา เขาจะบอกว่าสงสารโก้จังเลย ทุกครั้งที่กินข้าวร่วมกับครอบครัว ตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย คือร้องไห้ทุกวันเลย ตอนรวมโต๊ะกินข้าว โดนด่าโดนว่าโดนตีตลอด คือสมัยก่อนต้องเรียกว่าโดนบูลลี่สารพัด เราก็ถือว่าไม่ซีเรียสอะไร ทำทุกวันให้ดีที่สุด เลยเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เราต้องตั้งใจเรียน เพราะอย่างน้อยเราก็เรียนเก่ง”