ทรานส์ฟอร์เมอร์ส กำเนิดจักรกลอสูร Netflix แม้ว่าจะกล่าวว่าเดินเรื่องกระชับฉับไว แม้กระนั้นก็จะต้องเห็นด้วยว่าตัวบทมีข้อเสียอยู่แบบเดียวกัน เนื่องจากว่ามันออกมาแบบสูตรสำเร็จมากมายๆเป็นทั้งหมดทุกอย่างมันมองง่ายอย่างยิ่งกระทั่งเหลือเกิน ทุกๆอย่างมองรีบไปหมด แต่ว่าก็เริ่มเข้าใจได้ว่าเขาต้องการขายแฟนเซอร์วิสให้แฟนคลับด้วยการโชว์ความโก้เก๋ของเหล่าหุ่นยนต์ที่มีสูงถึง 3 กรุ๊ป
ส่วนตัวถูกใจข้อความสำคัญความข้องเกี่ยวของ Noah กับ Mirage มากมายๆภาคนี้ทำเอา Optimus Prime มองเป็นตัวละครสมทบไปเลย แต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่ภาคนี้ไม่เสมือนภาคอื่นโน่นเป็นการที่ฝั่งมนุษย์ได้มีส่วนร่วมกับการต่อสู้มากยิ่งกว่าทุกภาคก่อนหน้านี้ ดู transformers เป็นอีกทั้งช่วยหากุญแจและก็ร่วมต่อสู้กับหุ่นยนต์ในส่วนท้ายด้วย สำหรับผมฉากสู้ด้านหลังเรื่องเป็นยังไงที่ว้าวรวมทั้งติดตาเอามากๆแถมเพลงที่เลือกมาก็ดีเหมือนกัน
อีกจุดก็คือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการกระจัดกระจายบทนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เสียดายอย่างแรงก็คือ ไหนๆก็อุตส่าห์เอาเผ่าแม็กซิมัลมาโชว์ นับว่าเป็นจุดขายหลักของภาคนี้ด้วย และก็เอาเข้าจริง นักสู้เผ่าแม็กซิมัลทุกตัวก็จัดว่าโก้เก๋แล้วก็เก่งขั้นเทวดาเลยล่ะ แม้กระนั้นเสียดายที่ตัวหนังมิได้โชว์ หรือปูเรื่องฝั่งของพวกเขาอย่างถี่ถ้วนมากยิ่งกว่านี้ แถมเพียงพอรวมกลุ่มกับออโตบอตตอนต่อสู้ด้านหลังๆเรื่อง
ก็แปลงเป็นว่าพาให้แม็กซิมัลบางตัวมีหน้าที่ลดลงจนถึงเกือบจะเปลี่ยนเป็นบทสมทบจืดชืดๆไปเลย ยิ่งกว่านั้นก็คือบรรดา Plot Hole หลุดๆที่เชิญชวนขัดใจ และก็การตัดสินใจของผู้แสดงบางตัว ที่ตกลงใจทำบางสิ่งกลางทาง ที่นักเขียนก็พอนึกเหตุผลออก แต่ว่าก็แอบไม่เมกเซนส์ถึงเหตุผลสักเท่าไหร่เขาก็เลยจะต้องแบ่งเวลาไปให้เหล่าหุ่นยนต์เหล่านี้ด้วย ยังดีที่ยังสามารถผูกเรื่องราวของหุ่นกับผู้แสดงนำได้อย่างยอดเยี่ยม
ทรานส์ฟอร์เมอร์ส กำเนิดจักรกลอสูร Netflix
สิ่งที่ทำให้หนังภาคนี้ มีความน่าดึงดูดใจ ก็คือ การเล่าเรื่องในพาร์ทของผู้แสดงมนุษย์ ภายหลังที่ผ่านมา พวกเขาไม่ค่อยมีหน้าที่ที่หนักแน่นมากแค่ไหนนัก พอใช้จังหวะสร้างใหม่ ผู้เขียนบทแล้วก็ผู้กำกับเลือกให้ผู้แสดง(มนุษย์)หลักเป็นชายหนุ่มเชื้อสายลาติน กับสาวผิวสี สร้างสีสันที่แปลกแตกต่างกันออกไป แถมยังใส่เรื่องราวชีวิตของพวกเขาลงไปในหนัง พร้อมด้วยทำให้พวกเขามิได้เป็นเพียงแค่ตัวขวางในการศึกของหุ่นยักษ์
อีกจุดก็คือเรื่องเกี่ยวกับการกระจัดกระจายบทขอรับ โดยยิ่งไปกว่านั้นที่เสียดายอย่างแรงก็คือ ไหนๆก็อุตส่าห์เอาเผ่าแม็กซิมัลมาโชว์ นับว่าเป็นจุดขายหลักของภาคนี้ด้วย แล้วก็เอาเข้าจริง นักสู้เผ่าแม็กซิมัลทุกตัวก็นับว่าโก้และก็เก่งขั้นเทวดาเลยล่ะ แต่ว่าเสียดายที่ตัวหนังมิได้โชว์ หรือปูเรื่องฝั่งของพวกเขาอย่างถี่ถ้วนมากยิ่งกว่านี้แม้ยังมีส่วนร่วมจนถึงเปลี่ยนเป็นของใหม่ที่เชิญละลานตาสำหรับแฟนหนังชุดนี้
แถมเพียงพอรวมกลุ่มกับออโตบอตตอนต่อสู้ด้านหลังๆเรื่อง ทรานส์ฟอร์เมอร์ส กำเนิดจักรกลอสูร Netflix ก็แปลงเป็นว่าพาให้แม็กซิมัลบางตัวมีหน้าที่ลดน้อยลงจนถึงแทบเปลี่ยนเป็นบทสมทบจืดชืดๆไปเลย ยิ่งกว่านั้นก็คือบรรดา Plot Hole หลุดๆที่ชักชวนขัดใจ แล้วก็การตัดสินใจของผู้แสดงบางตัว ที่ตกลงใจทำอะไรบางอย่างกลางทาง ที่นักเขียนก็พอนึกเหตุผลออก แม้กระนั้นก็แอบไม่เมกเซนส์ถึงเหตุผลสักเท่าไหร่
การแปลความหมายที่สดใหม่ (ภายใต้เค้าโครงสูตรสำเร็จ) ของหนังภาคนี้ แม้ว่าจะยังไม่ถึงกับขนาดเพอร์เฟกต์ ด้วยหลายๆส่วนประกอบที่ยังมีจุดบกพร่อง แม้กระนั้นก็น่าจะเป็นช่องทางอันดีที่จะทำให้คนไม่ใช่น้อยที่เคยท้อใจ ปลง เอือมสุดจะทน หมดเลื่อมใส หรือแม้กระทั้งจนถึงหลงๆลืมๆแฟรนไชส์นี้ไปแล้ว ให้ทดลองเปิดใจหันกลับมาดูได้อีกรอบ ดราม่าและก็พาร์ตความเกี่ยวข้องบางทีอาจไม่จับอกจับใจเท่า ‘Bumblebee’
ความออริจินัลมันหนำใจ ความยอดเยี่ยม ความ Beyhem บางทีอาจไม่วินาศสันตะโรเท่าภาค 1 แต่ว่าก็สัมผัสได้ว่า ตัวแฟรนไชส์เองมีความมานะบากบั่นที่จะหาสูตรใหม่ๆให้กับหนังแบบที่ห่วงใยผู้ชมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อุตสาหะฟาดศีรษะเข้าบ้านราวกับที่เคยทำมา ทำให้แฟรนไชส์นี้มองน่าดึงดูด เพียงพอจะมีทรง มีทิศทางให้ไปต่อได้อีกยาวๆไม่ใช่แค่เอาหุ่นยักษ์มาตีกันเปื้อนๆเทอะๆมุ่งแต่ว่าขายสินค้าเล่น ขายซีจีเท่าภาค 4 แล้วก็ 5 ราวกับตามเคยเป็นมาในสมัยก่อน
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ ‘AIR’ มองเพลิดเพลินมากมายๆก็คือเคมีของดาราหนังที่ถูกกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ไม่ใช่แค่ตัวแอฟเฟล็ก (เล่นบท ฟิล ไนต์ ผู้ร่วมริเริ่มตั้งขึ้นไนกี้) แล้วก็เดมอนที่เป็นเพื่อนซี้กันเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นยังรวมทั้งผู้แสดงอื่นๆอย่าง เจสัน เบทแมน (Jason Bateman – สวมบทบาท ร็อบ สยี่ห้อสเซอร์ ผู้จัดการด้านการตลาดของไนกี้) คริส เมสสิท้องนา (Chris Messina – รับบทบาท เดวิด ฟอล์ค ผู้แทนนักกีฬาจอมเขี้ยว) แ
นอกเหนือจากนั้นดาราสมทบผู้อื่นยังเป็นตัวช่วยเข้ามาสร้างสีสันและก็เติมเต็มเรื่องราวให้บริบูรณ์ บทสำหรับพูดแล้วก็การเสวนามีความชอบธรรมชาติ แทรกมุกขบขันเป็นระยะพอให้ยิ้ม ที่สำคัญไม่ต้องกลัวว่าจะจำนักแสดงมิได้ เพราะเหตุว่าค้างแรกเตอร์แต่ละตัวเด่นชัด จำง่าย แสดงจุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ของบุคคลสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ไนกี้สมัยนั้นออกมาได้อย่างเห็นได้ชัด
รีวิวซีรีส์ The Days วันบรรลัย
“ปรมาณู” เป็นขุมพลังอย่างมากมายที่มีทั้งยังผลดีแล้วก็โทษ โลกของพวกเราได้รับทราบผลของการนำพลังงานทรงประสิทธิภาพอย่างปรมาณูมาใช้ประโยชน์จากเรื่องราวสำคัญหลายเรื่องราว หนึ่งในซึ่งก็คือเรื่องโรงไฟฟ้าปรมาณูฟุกุชิมะไดอิจิเมื่อปี 2011 เรื่องเศร้าคราวนั้นใช้เวลาเป็นเวลานานกว่า 7 วัน และก็เรื่องราวประวัติศาสตร์พวกนั้นได้ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสมจริงสมจังผ่านซีรีส์ ‘The Days – วันพิบัติ’
แน่ๆว่าหนังได้แรงจูงใจและก็ผลิตขึ้นมาจากเรื่องจริง ก็เลยมีการแทรกสอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนต้นสมัย 80’s เอาไว้มาก ซึ่งตรงจุดนี้แม้พวกเราไม่รู้เรื่องสถานะการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในตอนนั้นหรือเปล่ารู้เรื่องกระแสที่กำลังอินเทรนด์อยู่ตอนนั้นก็อาจมีความมึนๆนิดหน่อยว่าเขาเอ๋ยถึงเรื่องอะไรกัน!? แต่ว่าจุดนี้ไม่ใช่สาระสำคัญของเรื่องราวก็เลยสามารถปลดปล่อยผ่านได้โดยไม่เสียอรรถรส
นอกเหนือจากการพูดถึงสถานะการณ์แล้วก็กระแสวัฒนธรรมที่กำลังบูมในสมัยนั้น อีกหนึ่งความน่าดึงดูดใจที่ไม่เอ่ยถึงเลยมิได้ของ ‘AIR’ ก็คือการคั่น Easter Eggs เกี่ยวกับแวดวงกีฬาบาสเกตบอลรวมทั้งชื่อของผู้เล่นบาสเกตบอลที่เป็นสตาร์ของสมัยนั้นเอาไว้คนไม่ใช่น้อย แฟนบาสใครไปดูจะต้องมีปลาบปลื้มปริ่มเปรมแอบยิ้มเมื่อได้ยินชื่อแต่ละคนแน่ๆ
มตธิว เมเฮอร์ (Matthew Maher – รับบทบาท ปีเตอร์ มัวร์ ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบรองเท้า Air Jordan รวมทั้งโลโก้จัมป์แมน) แล้วก็ วิโอลา เดวิส (Viola Davis – สวมบทบาท โดลอเรส จอร์แดน แม่ของไมเคิล จอร์แดน)ส่วนผู้ที่ประทับใจไนกี้เองก็อาจชอบใจไม่แพ้กัน เนื่องจากว่าตัวหนังเอ๋ยถึงแหล่งที่มาของภาพจำเด่นๆจากแบรนด์ไนกี้เอาไว้ครบแบบไม่แออัด ในขณะที่มาของคำขวัญ “Just Do It” สิ่งที่ทำให้เกิดโลโก้ Swoosh กฎเหล็กที่บริษัทยึดมั่น ฯลฯ
แต่ว่าสำหรับความเป็น genre รอมคอม กลับมีความคิดว่าอารมณ์ฮาบางทีอาจน้อยไปหน่อย หรือมันฝืดเกิน หรือด้วยเหตุว่าคนเขียนเส้นลึกไปเอง ก็ไม่ทราบสิ หลุดขำก๊ากดังอยู่ฉากเดียว ตอนสุดท้ายของคู่คิมคังอู-ยูอินที่นา เอ๊ย การบรรลุผลในเชิงธุรกิจแล้วก็ชีวิตส่วนตัวได้ไหม ยังไง เชิญชวนไปเกาะขอบเตียงของคุณมองกันจ้ะ
ส่วนคนไหนกันแน่ตามมามองเพราะเหตุว่าหวังเสพย์ความหล่อของชายหนุ่มๆก็ขอบอกว่า ทั้งยังคิมคังอู ยูยอนซอก แล้วก็ยูแทโอ จะมาในลุคบ้านๆหน่อย เสื้อผ้าผมบางทีอาจเชิญเอิ่มอึ้งไปบ้าง แม้กระนั้นเอาว่าแสดงดีทุกคน ทดแทนความสบายด้วยการได้มองยูยอนซอกบอกสแปนิชเยอะมากๆละกัน ส่วนตัวแล้วถูกใจบทแล้วก็เคมีคู่ยูยอนซอก-อียอนฮีมากสุด
รีวิว Casa Amor : Exclusive for Ladies
สะท้อนเรื่องราว work-life balance เป็นความสมดุลของชีวิตแล้วก็งานของสตรีคนหนึ่ง ซึ่งลุกลามไปกระทบเรื่องบนเตียง เมื่อ ‘เซ็กส์’ หน้าที่สำคัญของชีวิตแต่งงานหายไป แม้กระนั้นเรื่องของ ‘เซ็กส์’ ที่แปลงหน้าที่มาเป็นผลิตภัณฑ์ท้าให้คุณบริหารจัดแจง คุณจะใช้สกิลการตลาดอันยอดเยี่ยมศึกษาเล่าเรียน ‘เซ็กส์’ ได้ทะลุปรุโปร่ง ทั้งยังส่วนทฤษฎีแล้วก็ภาคปฏิบัติ จนกระทั่งบรรลุจุดสูงสุด
การจ่ายกระแสไฟฟ้ารวมทั้งระบบหล่อเย็นของเครื่องปฏิกรณ์ฟุกุชิมะไดอิจิหยุดปฏิบัติงาน เปลี่ยนเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุทางปรมาณูตามมา เป็นหน้าที่ของผู้จัดการโรงไฟฟ้า กลุ่มช่างเทคนิค ประธานบริษัท ผู้ชำนาญ และก็นักการเมืองผู้กุมอำนาจของภาครัฐ จะต้องร่วมมือกันยั้งวิกฤติคราวนี้ให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด แต่ว่าจะทำยังไงเมื่อพวกเขามีความจำกัดอีกทั้งด้านการติดต่อสื่อสาร ข้อมูล รวมทั้งขั้นตอนการจัดการ!
ซึ่งบทก็ผูกเรื่องราวให้รุดหน้าไปครั้งละนิด ด้วยการให้สองคนจะต้องเกี่ยวพันกันด้วยมิตรภาพ โยงดราม่าแบบจิตใจแลกเปลี่ยนดวงใจ ด้วยการใส่ความสัมพันธ์ของการเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องนย.ของทั้งคู่คน เข้าไปเป็นกิมไม่กเล็กๆในเส้นเรื่อง ด้วยการให้ชเวอูจินรักความเป็นนาวิกจนถึงเข้าเส้นโลหิต เป็นการขายขำเล็กๆสไตล์ซีรีส์ประเทศเกาหลี แต่ว่าก็เป็นการสร้างเหตุผลให้ผู้ชมเห็นด้วยกับความสนิทสนมของตัวละครที่เป็นตัวละครเอกสองตัว ได้อย่างไม่ชอบใจสงสัย
แม้กระนั้นสิ่งที่มันรังแกตัวหนังอย่างร้ายแรงก็คือ การที่ตัวหนังในตอนกลางเรื่องกลับมิได้ให้ความเอาใจใส่กับการเป็นหนัง Whodunit เลยนะครับ เป็นไม่ให้เค้าเงื่อนคดีการฆ่าอะไรอะไรก็ตามมีแต่เพียงสถานะการณ์แนวสิตคอมที่ยังคงติดมาจากภาคแรก เป็นอาการแนวเหตุพา (แถ) ไปพบพบกับเรื่องราวการเสี่ยงภัยแล้วก็แอ็กชัน มากยิ่งกว่าจะพุ่งตรงไปที่การศึกษาค้นพบเนื้อหาที่จะเป็นร่องรอยในชั้นต่อๆไป
และก็ที่นับว่าพาให้เสื่อมโทรมไปอีกก็คือคนรัก นิกแล้วก็ออเดรย์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ส กำเนิดจักรกลอสูร Netflix ที่แสดงโดย แซนด์เลอร์และก็ อนิสตัน แท้จริงๆและจากนั้นก็จะต้องชื่นชอบในด้านของเคมีและก็มุกขำขันที่ยังเข้าหน้าแข้งเข้ากัน รับส่งมุกได้โบ๊ะบ๊ะไม่แพ้ภาคแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกมุกบทพูดขอคืนดีงแง้ง แม้กระนั้นก็จำเป็นต้องเน้นอีกครั้งว่า สถานะของทั้งคู่คนช่วงนี้ก็มิได้เป็นตำรวจรองบ่อนกับช่างเสริมสวยก๊อกน้ำแก๊กเสียแล้วน่ะสิขอรับ
ด้วยเหตุว่าพอเพียงทั้งสองหันมาเป็นสายลับมือโปร เป็นก็เห็นด้วยครับผมว่า เคมีแล้วก็มุกฮาของทั้งสองเป็นตัวหล่อเลี้ยงหนังให้มีความเบิกบานใจไปตลอดรอดฝั่งจริงๆราวกับในภาคแรกนั่นแหละเสมือนอย่างหนังแนว Whodunit เรื่องอื่นๆตัวหนังแทบทั้งยังเรื่องแทบขับเคลื่อนด้วยบทแนวแอ็กชันเสี่ยงอันตราย ที่ก็ดันเป็นแอ็กชันแนวตลกโปกฮาร้ายกาวๆไปเสียอีก
รีวิวชวนดู The Call สายตรงต่อสมัยก่อน (2020)
เป็นภาพยนตร์สายทริลเลอร์เรื่องเด่นเป็นที่คอย โดยเฉพาะชาวแฟนๆพัคชินฮเย แต่ว่าด้วยเหตุการณ์ของโรคระบาดวัววิด-19 ที่ดูเหมือนจะไม่ยินยอมซาง่ายๆThe Call ซึ่งจะต้องเลื่อนรอคอยการฉาย จนถึงสุดท้ายก็ตกลงใจแปลงมาฉายผ่าน Netflix แทน เหมือนกันกับภาพยนตร์ Time to Hunt ภาพยนตร์ The Call เป็นงานแนวไซไฟทริลเลอร์บนพลอตผ่านมิติเวลา
ซึ่งมีเงื่อนปัญหาของอาชญากรรมคละเคล้าจิตวิทยา มีความเด่นด้วยบทที่ตัวผู้แสดงอย่างพัคชินฮเยเองยังบอกในงานแถลงข่าวว่า ตอนคุณได้อ่านบท มันช่างน่าหวาดกลัว แล้วก็มีเรื่องมีราวราวกระตุ้นจินตนาการจนถึงเชิญต้องการรู้ว่าเมื่อถึงตอนถ่ายจริง มันจะราวกับหรือไม่เหมือนกับจินตนาการของคุณเช่นไร ยิ่งไปกว่านี้ แม่เหล็กของการแคสสองผู้แสดงสาวพัคชินฮเยแล้วก็จอนควรซอมาร่วมกันสวมบทบาทนำ จัดเต็มยาวโลดตลอดเรื่องอย่างน่าจับตาดู
ภายหลังที่เมื่อปี 2019 ‘Murder Mystery’ หนังแนวการฆาตกรรม Whodunit ที่เปิดหน้าก็รู้ว่าขายความเป็น A-List ของดารานำอย่าง อดัม แซนด์เลอร์ (Adam Sandler) รวมทั้ง เจนนิเฟอร์ อนิสตัน (Jennifer Aniston) แหงๆเปลี่ยนเป็นการเกิดหนัง Netflix ที่เคยมาแรงขึ้นแท่นเป็นหนังที่มีสถิติยอดเข้าชมสูงสุดในอาทิตย์แรกข้างหลังฉายปริมาณกว่า 30.9 ล้านผู้ชมข้างหลังเข้าฉายเพียงแต่ 72 ชั่วโมง
เพียงพอมาถึงปีนี้ ทั้งสองกลับมาอีกรอบใน ‘Murder Mystery 2’ ที่ยังคงแพ็กคู่ แซนด์เลอร์-อนิสตัน กลับมาดังเช่นเดิม พร้อมกลุ่มผู้แสดงจากภาคที่แล้วที่กลับมานิดหน่อย เพิ่มเป็นตอนนี้สลับตัวผู้กำกับเป็น เจเรมี มึงเรลิก (Jeremy Garelick) มือเขียนบทสายคอมมีดี้จาก ‘The Break-Up’ (2006) และก็ได้ผลสำเร็จงานดูแลเรื่องที่ 3 ของเขานับจาก ‘The Wedding Ringer’ (2015) แล้วก็ ‘The Binge’ (2020) ที่มาดูแลหัวข้อนี้แทน ไคล์ เนวาเช็ค (Kyle Newacheck) จากภาคแรก โดยได้ เจมส์ แวนเดอร์ใบเสร็จรับเงินต์ (James Vanderbilt) ดูหนังผีออนไลน์ จากภาคแรกมาเขียนบทให้เหมือนปกติ